Nobody Knows: เราต่างเดียวดายอยู่บนโลกเหมือนๆ กัน
ในฐานะนักดูหนังมือใหม่ ผมยังไม่มีโอกาสได้ดูผลงานของผู้กำกับ ฮิโรคาสุ โคริเอดะ (Hirokazu Kore-eda) มาก่อน แต่เมื่อได้ดูผลงานชิ้นล่าสุดของเขาเรื่องนี้ ผมก็สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะต้องหาผลงานเรื่องอื่นๆ ของเขามาดูให้ได้ (Moborosi, After Life และ Distance)
โคริเอดะได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างหนังเรื่องนี้จากเรื่องจริงที่ตกเป็นข่าวเกรียวกราวในญี่ปุ่นเมื่อปี 1988 เมื่อพี่น้องหญิงชาย 4 คนซึ่งกำพร้าพ่อตั้งแต่เกิด ถูกแม่ทิ้งให้อยู่กันตามลำพังในอพาร์ตเมนต์เล็กๆ แห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว โดยที่โลกภายนอกไม่เคยรับรู้ถึงความมีตัวตนของพวกเขาเลยตั้งแต่เล็กจนโต เนื่องจากแม่ไม่เคยพาพวกเขาไปแจ้งเกิด ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์เข้าเรียนในโรงเรียน ไม่ว่าที่ใดก็ตาม
ทั้ง 4 พี่น้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันยาวนานถึง 6 เดือน กว่าที่โลกภายนอกจะรับรู้เรื่องราวของพวกเขา
ในหนังเรื่องนี้ โคริเอดะใช้กล้องแฮนด์เฮลด์ในการถ่ายทำเพื่อสื่อถึงความสมจริงตามลักษณะของหนังกึ่งสารคดีที่เขาถนัด รวมทั้งใช้การโคลสอัพช่วยในการสื่อสารทางอารมณ์ โดยเฉพาะสีหน้าและแววตาของเด็กๆ
ผมชอบวิธีการนี้มาก เพราะทุกครั้งที่ภาพจับไปที่ใบหน้าของเด็กแต่ละคน นอกจากความน่ารักที่เห็นได้ชัดเจนแล้ว อารมณ์ความรู้สึกของพวกเขาในแต่ละสถานการณ์ก็สามารถส่งผ่านมาถึงคนดูได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องอาศัยคำพูดที่ล้นเกิน
แววตาของ ยูยะ ยากิระ ที่รับบทเป็นอากิระ พี่ชายคนโตวัย 12 ปี น่าจะเป็นสิ่งที่ชัดเจนมากที่สุด อากิระเป็นคนแบกโลกของน้องๆ อีก 3 คนที่เหลือไว้ในยามที่แม่ไม่อยู่ แววตาของยูยะบ่งบอกชัดว่า ไม่ว่าโลกจะเล่นตลกกับเขาแค่ไหน เขาก็พร้อมที่จะยืนหยัดฝืนต้านมันเสมอ มันไม่บ่งบอกว่าเขากำลังสุขหรือเศร้า มีหวังหรือสิ้นหวัง แต่มันเป็นเพียงแววตาของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเรียนรู้และทำความเข้าใจกับชีวิต และคงเป็นเพราะแววตาเช่นนี้เองที่มีส่วนส่งให้เขาเป็นม้ามืดคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในปี 2547 ไปครอง
เรื่องราวของ Nobody Knows เริ่มต้นเมื่อคุณแม่พาลูกๆ ทั้ง 4 คนย้ายเข้าอพาร์ตเมนต์แห่งใหม่ เหตุการณ์ในครอบครัวดูเหมือนจะเรียบร้อยและมีความสุขดี (ถึงแม้จะต้องหลบๆ ซ่อนๆ อยู่บ้าง เพราะเจ้าของไม่ต้องการให้มีเด็กเล็กเข้ามาพัก) อากิระ ทำหน้าที่ดูแลน้อง ๆ และความเรียบร้อยภายในห้องพักแทนแม่เวลาที่แม่ไม่อยู่ แต่เมื่อไหร่ที่แม่กลับมาอยู่พร้อมหน้า ภาพความรักความอบอุ่นในครอบครัวก็จะปรากฏขึ้นเสมอ
แต่แล้วจู่ ๆ แม่ก็จากพวกเขาไป โดยทิ้งเงินไว้จำนวนหนึ่งและคำฝากฝังให้อากิระช่วยดูแลน้องแทนแม่
ครับ ต่อจากนี้หนังก็จะพาเราไปสัมผัสกับชีวิตในห้องพักเล็ก ๆ ของเด็ก 4 คน มีเพียงอากิระเท่านั้นที่สามารถออกไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระในขณะที่คนอื่นๆ ต้องหลบๆ ซ่อนๆ หรือไม่ก็ต้องโกหกเจ้าของห้องพักว่าเป็นญาติที่มาพักอยู่ชั่วคราว ฉากที่อากิระพาน้องๆ หลบออกมาวิ่งเล่นข้างนอกพร้อมกันเป็นครั้งแรก ไม่เพียงแสดงถึงการปลดปล่อยตัวเองจากห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ หรือของเล่นที่แสนจะจำเจของพวกเด็กๆ เท่านั้น แต่ผมเชื่อว่าความรู้สึกของคนดูก็คงจะได้รับการปลดปล่อยไปพร้อมๆ กัน หลังจากร่วมชะตากรรมกับเด็กๆ อยู่ในห้องแคบๆ มาระยะหนึ่ง
ใครที่ได้ดูหนังก็คงรู้สึกไม่ต่างกันว่าโลกที่แท้จริงของเด็กทุกคนนั้นอยู่ภายนอก พวกเขาล้วนต้องการพื้นที่สำหรับวิ่งเล่นและแสดงออกซึ่งความรู้สึกภายใน เท้าของเขาควรจะได้สัมผัสกับพื้นดิน ผิวหนังของเขาควรจะได้รับการห่มคลุมด้วยสายลมและแสงแดด และที่สำคัญคือ จิตใจของเขาควรจะได้รับการทะนุถนอมทั้งจากผู้ใหญ่และสิ่งแวดล้อมรอบกาย
ผมไม่แน่ใจว่าโคริเอดะต้องการบอกอะไรจากต้นไม้ที่เด็กๆ ช่วยกันปลูกไว้ที่ระเบียงห้อง ผมไม่รู้ว่าทำไมการได้ออกมาวิ่งเล่นข้างนอกครั้งแรก พวกเขาจึงเก็บเอาดินและเมล็ดพืชไปปลูกต้นไม้ มันอาจเป็นเพียงความทรงจำในวัยเด็กของโคริเอดะที่ได้ปลูกต้นไม้ส่งครูในสมัยเรียนชั้นประถม หรืออาจเป็นเพราะโลกของเด็กๆ ในเรื่องนั้นโดดเดี่ยวและแห้งแล้งเกินไป
โคริเอดะไม่ได้ทำร้ายคนดูไปมากกว่านี้ด้วยการซ้ำเติมเรื่องร้ายๆ ให้กับเด็กๆ จากสังคมภายนอก กลับกัน เขาพยายามแสดงให้เห็นถึงความช่วยเหลือที่อากิระได้รับจากผู้คนรอบข้าง เป็นความเอื้ออารีที่ผู้คนพอจะมีให้กันได้บ้างในขณะที่การต่อสู้ของแต่ละคนยังต้องดำเนินต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าโคริเอดะก็ได้ซ่อนพิษภัยจากสังคมภายนอกไว้มากพอสมควร หากสังเกตให้ดีเราจะพบว่าทั้งอากิระ, เคียวโกะ, ชิเกรุ และยูกิ ต่างก็ต้องได้พบกับสิ่งเหล่านี้ไม่ว่าพวกเขาจะมีหรือไม่มีพ่อและแม่ก็ตาม ทั้งวิดีโอเกมที่ผลาญเวลาของเด็กๆ ไปอย่างไร้คุณค่า การต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มเพื่อน หรือการหาเงินด้วยวิธีการง่ายๆ ของเด็กนักเรียนหญิง
ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วชีวิตของเด็กๆ จะเป็นอย่างไรต่อไป เช่นเดียวกับเราทุกคนที่ต่างก็ก้าวย่ำไปบนหนทางที่ไม่มีใครรู้ว่าจะนำไปสู่แห่งหนใดเหมือนๆ กัน
1 Comments:
zhengjx20160716
louis vuitton outlet
nike air huarache
fitflop shoes
giuseppe zanotti outlet
true religion outlet
michael kors outlet
louis vuitton outlet
jordan concords
replica rolex watches
beats by dre outlet
polo ralph lauren
coach outlet clearance
supra footwear
ray bans
michael kors outlet online
air jordan shoes
hollister clothing
adidas superstar trainers
north face jackets
gucci belts
louis vuitton
ed hardy outlet
nike store
abercrombie and fitch
louis vuitton outlet
nike roshe run mens
oakley outlet
fit flops
nike blazers uk
discount jordans
louis vuitton purses
nike free uk
true religion outlet
toms shoes
air jordan shoes
oakley outlet
coach factory outlet
michael kors
michael kors outlet online
coach factory outlet
Post a Comment
<< Home